การบวชเป็นแม่ชี ธรรมจาริณี หรือเนกขัมมนารี
การบวชเป็นแม่ชี ธรรมจาริณี หรือเนกขัมมนารี
แม่ชี คือ หญิงที่ตกลงใจใคร่ที่จะบวชเพื่อศึกษาค้นคว้าหลักธรรมคำสอนเพื่อเป็นหลักปฏิบัติและช่วยพระภิกษุสงฆ์เผยแผ่พระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่งผู้ประสงค์จะบวชชี ต้องปลงผมก่อน เสร็จแล้วนุ่มห่มชุดชาวบ้านธรรมดา ถือเครื่องสักการะเข้าไปหาพระสงฆ์ รูปเดียวหรือหลายรูปก็ได้ ถวายเครื่องสักการะแล้วกราบ 3 ครั้ง จึงกล่าวคำขอบวชชี ดังนี้
เอสาหัง ภันเต, สุจิระปะรินิพพุตัมปิ, ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ, ปัพพัชชัง มัง ภันเต, สังโฆ ธาเรตุ อัชชะตัคเค ปาณุเปตัง, สะระณัง คะตัง.
แปลว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอถึงสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้เสด็จดับขันธปรินิพพานนานแล้ว กับทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะที่พึ่งที่ระลึก ขอพระสงฆ์จงจำข้าพเจ้าไว้ว่าเป็นผู้บวชในพระธรรมวินัย ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป. เสร็จแล้วกราบ 3 ครั้งแล้วออกไปนุ่งห่มเครื่องแบบหรือชุดของแม่ชี กลับเข้าไปหาพระสงฆ์ กราบ 3 ครั้ง แล้วอาราธนาศีล 8 ดังนี้
มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ (3 ครั้ง) แต่ถ้าบวชคนเดียว ว่า อะหัง แทน มะยัง และ ยาจามิ แทน ยาจามะ
เมื่อพระสงฆ์ให้ไตรสรณคมน์ และให้ศีล 8 พร้อมสรุปอานิสงส์ศีลจบแล้ว รับว่า สาธุ แล้วกราบ 3 ครั้ง ถ้ามีเครื่องไทยทานถวายพระก็ถวายตอนนี้ เมื่อพระว่า ยถา วาริวะหา พึงกรวดน้ำ เมื่อพระว่า สัพพี พึงประนมมือรับพร เป็นอันเสร็จพิธีบวชชี
ศีล 8 สำหรับแม่ชี
1. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากฆ่าสัตว์ ด้วยตนเองและไม่ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า)
2. อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากลัก, ฉ้อ ของผู้อื่น ด้วยตนเองและไม่ใช้ให้ผู้อื่นลัก ฉ้อ)
3. อะพรัหมะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากอสัทธรรมกรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์)
4. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากพูดเท็จ คำไม่เป็นจริง และคำล่อลวงอำพรางผู้อื่น)
5. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มกินสุราและเมรัยเครื่องดองของทำให้ให้คลั่งไคล้ต่างๆ)
6. วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยาม
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือเว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล
7. นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนา มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะ มัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยาม
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากดู ฟัง ฟ้อนรำ ขับร้องและประโคมเครื่องดนตรีต่างๆ และดูการเล่นที่เป็นข้าศึกษาแก่กุศล และทัดทรงตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับและดอกไม้ของหอม เครื่องทาเครื่องย้อม ผัดผิวให้งามต่างๆ)
8. อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากนั่งนอนเหนือเตียง ตั่ง มีเท้าสูงเกินประมาณ และที่นั่ง ที่นอนอันสูงใหญ่ ภายในใส่นุ่นและสำลี อาสนะอันวิจิตรไปด้วยลวดลายงามด้วยเงินทองต่างๆ)
ธรรมจาริณี
การบวชเป็นธรรมจาริณี หมายถึง ผู้มาปฏิบัติชั่วคราว เป็นผู้หญิง ไม่ปลงผม เช่น บวชภาคฤดูร้อน ถือศีล 8 หรือศีล 5 ก็ได้ เช่น มาเช้า-เย็นกลับ
เนกขัมมนารี
การบวชเป็นเนกขัมมนารี ผู้บวชจะต้องถือศีล 8 ไม่ปลงผม ปฏิบัติชั่วคราวเหมือนกัน หรือมีการกำหนดวันในการเข้าปฏิบัติ แต่จะต้องนั่งภาวนาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง
Post a Comment